อยู่ดีๆก็ตกเป็นผู้ต้องหาสำรหรับ Fortnite เกมส์ออนไลน์อันกับหนึ่งของโลก ที่ตอนนี้ฟ้องร้องโดยกลุ่มคนบางหลุ่มในข้อหาทำเกมส์ออกมาให้ผู้คนติดงอมแงม แถมยังมีการเปรยว่าเกมส์ Fortnite เป็นเหมือนโคเคน โดยสำนวนคดีดังกล่าวถูกยื่นสู่ The Superior Court of Quebec ศาลสูงสุดแห่งเมือน Quebec ประเทศแคนนาดา โดยโจทย์ยื่นฟ้องไปยังเจ้าของ Fortnite อย่าง Epic Games กล่าวหาว่า Epic Games ทำเกมส์ Fortnite ออกมาเพื่อล่อให้คนติดโดยเฉพาะ ถึงกับขนาดผู้เล่นต้องมองหาหนทางรักษาอาการติดกันเลยทีเดียว โดยบางส่วนระบุว่า “การติดเกมส์ Fortnite ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้เล่นจริงๆ หลายคนถึงกับไม่กินข้าว ไม่อาบน้ำและไม่เข้าสังคม”
Jean-Philippe Caron นักกฏหมายผู้นำสำนวนคดีนี้ขึ้นสู่ศาลบอกกับ AFP
ว่า ผู้ผลิตเกมส์ได้มีการเกณฑ์นักจิตวิทยาเข้ามาช่วยในการสร้างเกมส์เพื่อให้ผู้เล่านติด เขายังบอกอีกว่า Epic Games ผิดที่ไม่มีการเตือนผู้เล่นเกี่ยวกับความเสี่ยงและอันตรายในเกมส์ Fortnite. อย่างไรก็ตาม ทาง Epic Games ก็ยังไม่มีการออกมาตอบโต้แต่อย่างใด.
Fortnite เกมส์ประเภท battle royale ที่ให้ผู้เล่น 100 คน กระโดดร่มเข้าไปติดอยู่ในเกาะ และต้องเอาชีวิตรอดให้เหลือคนสุดท้าย, เกมส์ถูกปล่อยออกมาเมื่อปี 2017 และตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นเกมส์ที่ดังที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ด้วยจำนวนผู้เล่นทั่วโลกกว่า 250 ล้านคน และด้วยอนิสงค์ของ Fortnite ทำให้ตอนนี้ Epic Games มีมูลค่าทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ $15,000 ล้านเหรียญฯ คิดเป็นเม็ดเงินบ้านเราก็ประมาณ…………คิดเอาเอง
เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานเหตุการณ์ตะลึงชวนหัวในโลกออนไลน์ประเทศใต้หวัน หลังชาวทวิตเตอร์รายหนึ่งตาดี สำรวจภาพถนนในโปรแกรม Google Street view ซึ่งให้บริการบันทึกภาพเส้นทางถนนแบบ 360 องศา ปรากฏว่าเขาเจอภาพที่ไม่คาดคิดจากกล้องรถของ Google จับภาพไว้ได้
“ฉันดู Google เพื่อดูว่าฉันพบสัตว์บางชนิดหรือไม่ แต่กลับพบเจอกับสิ่งที่น่าอัศจรรย์นี้อย่างไม่คาดฝัน!”
โดยปรากฎเป็นภาพคู่รักคู่หนึ่งในสภาพเปลือยเปล่ากำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่ริมถนน Shantian เมืองไถจง ของไต้หวัน แม้แต่เจ้าตัวเองอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังกลายเป็นดาวดังในโลกออนไลน์ หลังทวิตเตอร์ดังกล่าวถูกทวีตออกไปอย่างแพร่หลาย
ด้านบริษัทกูเกิ้ลระบุว่า ยืนยันที่จะปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด และล่าสุดภาพนี้ได้ถูกลบออกไปแล้วหลังตรวจพบว่าละเมิดนโยบายของบริษัท
Google ทำสุสานให้ผลิตภัณฑ์ที่ตายไปแล้ว ต้อนรับฮาโลวีน, Google+ ใหญ่สุด
พูดถึง Google คงไม่มีใครไม่รู้จัก และเราก็ใช้ผลิตภัณฑ์ของพี่กูในเกือบทุกๆวันเลยกว่าได้ ทั้ง YouTube, Gmail, Chrome หรือ Maps เป็นต้น แต่นอกเหนือจากนี้ Google ยังมีผลิตภัณฑ์อีกมากมายที่เราไม่เคยใช้และไมคุ้นหน้าคุ้นตา และก็มีหลายผลิตภัณฑ์ของ Google เช่นกันที่ไม่ได้ถูกพัฒนาต่อ เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง เช่นมีคู่แข่งที่ทำได้ดีกว่า คนไม่นิยม เป็นต้น และพี่กูก็ไม่ลังเลที่จะปิดมันไปซะ
ล่าสุด Dana Fried หัวหน้าทีมพัฒนา Google Chrome ได้โพสต์ภาพบนแอ็คเคาท์ทวิตเตอร์ส่วนตัว เป็นภาพของป้ายหลุมศพที่ตกแต่งขึ้นสำหรับต้อนรับวันฮาโลวีน แต่ชื่อบนป้ายเหล่านี้ กันชื่อของผลิตภัณฑ์ของ Google ที่ไม่ได้ไปต่อ ก็คือตายไปแล้วนั่นเอง ดูจากภาพจะมีทั้งหมด 6 ศพ ดังนี้
สามศพแรกคือ Google+, Google Buzz และ Orkut สามแพล็ตฟอร์มโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ที่พี่กูก็ตัดสินใจฆ่าทิ้งไป, Google Wave ที่เป็นแพล็ตฟอร์มลักษณะของ Online Co-working, Picasa สำหรับจัดการและตกแต่งรูปภาพ และ Google Reader ที่ใช้เก็บข่าวสารข้อมูลจากเว็ปไซต์ต่างๆ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องไปค้นหาข่าวตามเว็ปต่างๆให้ยุ่งยาก
จะหาว่าโหดร้ายก็ไม่ได้ Google มีเหตุผลที่จะเป็นที่จะต้องหยุดผลิตภัณฑ์เหล่านี้ อย่างสามโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คแพล็ตฟอร์ม ก็พ่ายให้กับ Facebook, Twitter และ IG อย่างราบคาบ(Google+ ป้ายหลุมศพใหญ่สุด คงจะเจ็บปวดที่สุด), Picasa ที่ไม่ได้ตายเปล่า เพราะมี Google Photo มาแทนที่ ขณะที่ Google Wave ก็ถุกแทนที่ด้วย Google Drive. แต่สำหรับ Google Reader เหตุผลดีๆก็คงจะเป็น การเข้าถึงผู้คนที่มากกว่าของ Social Network และฟีตข่าวของพี่กู ที่ทำงานในลักษณะคล้ายกันล่ะมั้ง
สื่อต่างประเทศรายงานว่า Samsung และ Sony หยุดสายการผลิตสมาร์ทโฟนในเมืองจีน ด้วยปัญหาคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้น ค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจที่ซบเซาลง โดยเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ Samsung ก็ได้มีการปิดโรงงานในเมืองฮุยโจ และเหลือไว้เพียงแห่งเดียว และล่าสุดก็ได้มีการสั่งปิดโรงงานดังกล่าวแล้ว
อีกฟาก Sony ก็ออกมาบอกว่า กำลังจะมีการสั่งปิดโรงงานผลิตสมาร์ทโฟนในปักกิ่งเร็วๆนี้ และจะผลิตในประเทศไทยเท่านั้น ขณะที่ Apple ยังคงมีฐานผลิตหลักอยู่ที่จีนเหมือนเดิม ถึงแม้จะมีเรื่องนโยบายภาษีนำเข้าจากทรัมป์คอยกวนใจอยู่ก็ตาม
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป